ภัยสังคม

ภัยสังคม

วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553

ข่มขืน ภัยร้ายในสังคม

อาชญากรรมทางเพศ “ข่มขืน” นับวันจะยิ่งเป็นปัญหาที่ลุกลามขยาย วงมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นลำดับท่ามกลางเสียงเรียกร้อง-เสนอให้มีการ “เพิ่มโทษ” ผู้ก่อคดี...คดีข่มขืนก็ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องเหมือนท้าทาย ยุคนี้เด็กหญิงวัยแค่ 1-2 ขวบ...ก็ยังถูกข่มขืน ยายแก่ ๆ อายุเฉียดร้อย...ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย แม้แต่ “แม่ชี” ก็ยังไม่วายตกเป็นเหยื่อกามโฉด ซ้ำรายบางคดี “ตำรวจ” ก็เป็น “ไอ้หื่น” เสียเอง !!

หลายคนคงร้องถามขึ้นซ้ำ ๆ อีกว่า...มันเกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทย ?? ทำไมสังคมไทยมันเสื่อมทรามลงทุกวัน ?? แล้วทางออก-ทางแก้ไขป้องกันปัญหานี้มันน่าจะอยู่ตรงไหน-มันควรจะเป็นเช่นไร ?? กับปัญหา “ข่มขืน” ที่ยุคนี้เกิดถี่ยิบ เกิดแม้แต่ในบ้านของเหยื่อเอง...โดยน้ำมือคนในครอบครัวตนเอง นักวิชาการด้านผู้หญิงอย่าง พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้ประสานงานโครงการสตรีของฟอรั่มเอเชีย บอกว่า...รู้สึกตกใจที่ช่วงหลายเดือนมานี้มีคดีทางเพศสูงขึ้น ซึ่งสื่อมวลชนก็ให้ความสนใจนำเสนอข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้น สื่อมวลชนมีการนำเสนอกรณีที่ดู “ไม่ธรรมดา” กรณีแปลก ๆ อยู่เรื่อย ๆ โดยเฉพาะกรณีข่มขืนที่มีเรื่องอายุ-สถานภาพที่แตกต่างกันมาก มีการ นำเสนอ “ความผิดปกติ” ให้สังคมเห็น ซึ่งหากจะถามว่าการข่มขืนมีจำนวนเพิ่ม สูงขึ้นแค่ไหน ? คงตอบไม่ได้เรื่องตัวเลขที่ชัดเจน แต่ที่ชัดขึ้นคือพื้นที่ในการนำเสนอข่าวข่มขืนที่มีสูงขึ้น
“อาจเพราะการแพร่หลายของสื่อลามกราคาถูก มันกระจายไปกว้าง ขึ้น เข้าถึงกลุ่มต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ขณะที่ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศที่ถูกต้อง กลับลดลง เข้าถึงกลุ่มโดยตรงได้น้อยลง ซึ่งมันสวนทางกัน” สำหรับแนวทางการแก้ไขนั้น พรเพ็ญมองว่า...ยังห่างไกล เหตุเพราะ “ขาดความเอาจริงเอาจังต่อเนื่อง” เกิดเหตุรุนแรงทีก็ขยับตัวกันที และที่สำคัญ...ตราบใดที่ผู้ชายยังมองผู้หญิงเป็น “เครื่องมือระบายอารมณ์ทางเพศ” ก็คงยากที่ปัญหาจะเบาบางลง ซึ่งปัญหามาจากการไม่กลัวกฎหมาย ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี
“แต่ปัญหาไม่ใช่มาจากตัวกฎหมาย เพราะกฎหมายรุนแรงอยู่แล้ว” ...นักวิชาการฟอรั่มเอเชียกล่าว ทางด้านมุมมองของนักวิชาการด้านกฎหมาย รศ.วีระพงษ์ บุญโญภาส คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็เห็นว่ากฎหมายเกี่ยวกับคดีข่มขืนที่ใช้อยู่ปัจจุบันก็แรงพออยู่แล้ว เพียงแต่ “การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังยังทำได้ไม่ดีพอ” ที่สำคัญ...ผู้ก่อเหตุไม่มีความยำเกรงกฎหมาย เกิดค่านิยมผิด ๆ เกี่ยวกับเรื่องเพศมาก ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจากแรงจูงใจทางสังคมในเรื่องเพศที่ผิด ๆ มีสูง จนทำให้บางคนขาดความยับยั้งชั่งใจ
“น่าจะมีการพัฒนาระบบการใช้กฎหมายที่มีอยู่ และรัฐควรจะเปิดเผยตัวเลขสถิติคดีข่มขืนออกมาให้ชัดเจน เพื่อให้คนในสังคมได้ตระหนักว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ขึ้นทุกวัน ๆ” อย่างไรก็ตาม กรณีที่ผู้หญิงจะถึงกับต้องพกพา “อาวุธป้องกันตัว” นั้น รศ.วีระพงษ์บอกว่า...คงไม่ใช่เรื่องดี เพราะหากคนร้ายแย่งชิงได้ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มความน่ากลัวให้กับคนร้าย ยิ่งเป็นผลร้ายแก่เหยื่อเอง “ทางที่ดีคือทำให้สังคมได้รับรู้อันตรายตรงนี้ ทำให้เกิดความตระหนักว่าจะต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น !!” มนตรี สินทวิชัย หรือ ครูยุ่น ส.ว.สมุทรสงคราม รองประธานคณะกรรมาธิการกิจการสตรี เยาวชน และผู้สูงอายุ วุฒิสภา มองปัญหา “ข่มขืน” ที่กำลังขยายวงกว้างขึ้นว่า...คนมักจะไปสนใจที่กฎหมาย ซึ่งกฎหมายมีความรุนแรงและมีบทลงโทษที่หนักอยู่แล้ว ดังนั้น ควรจะมองไปที่ต้นตอการเกิดของปัญหาว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ? ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อได้รับการปกป้องที่ดีจากสังคม-จากชุมชนเพียงพอแล้วหรือยัง ?
“มาตรการทางสังคมต่างหากที่ดูจะอ่อนด้อย จนเกิดความอ่อนแอ” ครูยุ่นขยายความว่า...โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าการสกัดกั้น มาตรการในเชิงนโยบายเกี่ยวกับการป้องกันปัญหา อ่อนแอมาก ที่สำคัญ...การที่คดีข่มขืนสูงขึ้นก็เป็นเพราะเดี๋ยวนี้กลุ่มผู้กระทำหรือนักข่มขืน กับกลุ่มผู้ถูกกระทำหรือเหยื่อ ไม่ได้อยู่ในวงแคบ ๆ แต่ขยายออกไปแทบจะทุกกลุ่ม ทุกอายุ ทุกสถานภาพ ทุกเพศ ทั้งนี้ ปัญหาหลัก ๆ ก็คือ บางคน “มีค่านิยมทางเพศแบบผิด ๆ” และยังได้รับข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพที่แท้จริงน้อยเกินไป หรือไม่ทราบบทบาทหน้าที่-สิทธิของตนเอง จนทำให้ลืมพื้นฐานความเป็นมนุษย์ไปหมด ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งในหลายสาเหตุ ซึ่งเป็นที่มาของปัญหาที่เกิดขึ้น
“การข่มขืนมันไม่ได้หยุดอยู่แค่ผู้หญิงสาว ๆ แต่ลามถึงทุกกลุ่มที่บรรดานักข่มขืนมองเห็น ไม่เว้นแม้แต่เด็ก คนแก่ หรือแม้แต่ผู้ชายด้วยกันเอง ดังนั้น การแก้ปัญหาก็ควรจะต้องลงไปที่ระดับฐานรากจริง ๆ ทำให้ชุมชนและคนในสังคมรับรู้ว่านี่เป็นปัญหาของสังคมแล้ว เป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องช่วยกัน ที่สำคัญต้องไม่ดำเนินกิจกรรมที่จะสร้างความเข้มแข็งแบบคลื่นกระทบฝั่งเหมือนทุก ๆ ครั้ง”...ครูยุ่นกล่าว “ข่มขืน” วันนี้มิใช่แค่เรื่อง “หน้ามืด-โชคร้าย” อีกแล้ว มันกลายเป็น “ผีร้าย” ที่สิง-ที่ทำร้ายใครก็ได้...ทุกเวลา เป็นปัญหาซ้ำซากที่เกินกว่าคำว่า “รุนแรง” ไปแล้ว !!!.

http://artsmen.net/content/show.php?Category=newsboard&No=2899

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น