ภัยสังคม

ภัยสังคม

วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553

ภัยจากเว็บไซต์

เว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม ถือเป็นประเด็นร้อนระดับประเทศในช่วงที่ผ่านมา เว็บไซต์ถือเป็นเครื่องมือสื่อสารทันสมัยในโลกดิจิตอลทุกวันนี้ เปิดประเด็นด้วยคำถามสะกิดใจ "มีบ้างไหม ที่ท่องโลกอินเตอร์เน็ต โดยไม่เปิดเว็บไซต์" สถิติจากสำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐ (สบทร.) เผยว่าจำนวนเครื่องที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ (ณ วันที่ 18 ก.พ. 52) มีทั้งสิ้น 4,008,728 เครื่อง เว็บไซต์จึงถือเป็นหัวใจของการท่องเน็ต ทว่า เราจะกรองเว็บไซต์ไม่เหมาะสมออกจากเว็บไซต์ทั่วไปได้อย่างไร? ภัยคุกคามที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ สรุปได้ดังนี้ 1.ภัยคุกคามจากเว็บไซต์หลอกลวง ได้แก่ เว็บที่มีการหลอกให้ทำธุรกรรมออนไลน์ เพื่อดักข้อมูลในการกรอกค่า User ID และ Password ซึ่งมักจะตั้งชื่อ URL หรือ Domain name ใกล้เคียงกับเว็บไซต์จริง, เว็บไซต์ที่หลอกให้ผู้ใช้งาน download โปรแกรมไม่พึงประสงค์ ที่มีคุณสมบัติในการดักข้อมูล โดยหลอกให้ผู้ใช้งานตกเป็นเหยื่อของเนื้อหาชวนเชื่อ จำพวกยาลดความอ้วน, งานที่ได้รับค่าตอบแทนสูงเกินปกติ, โปรแกรม crack serial no., กลโกงเกมส์ เป็นต้น 2.ภัยคุกคามจากเว็บที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม ได้แก่ เว็บไซต์ลามกอนาจาร, เว็บไซต์พนัน, เว็บข้อมูลขยะ เช่น เว็บบอร์ดที่มี Botnet มาตั้งศูนย์ส่งข้อมูลชวนเชื่อ เช่น โฆษณาขายสินค้า ขายยา ขายบริการต่างๆ, เว็บไซต์ที่มีเนื้อหากระทบความมั่นคง ซึ่งอาจเข้าข่ายหมิ่นสถาบันหลักของชาติ 3.ภัยคุกคามที่เกิดจากเว็บเครือข่ายสังคม ได้แก่ เว็บเกมส์ออนไลน์, เว็บ Social Network เช่น Hi5, Facebook ในส่วนนี้อาจเชื่อมกับภัยคุกคามจากการหลอกลวงในรูปแบบอื่นได้ เช่น การขายบริการทางเพศ, การสอนเสพยาเสพติด ดังที่พบเห็นเป็นข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวข้างต้น ประเด็นหนึ่งที่เด่นชัดและเป็นที่ถกเถียงกัน คือ การปิดกั้นเว็บไซด์ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย เพราะไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด โดยเฉพาะกับงานสืบสวนสอบสวนแล้ว ไม่ถือว่าเหมาะสมนัก เนื่องจากเราจะไม่อาจหาข้อมูลแหล่งที่มาของผู้กระทำความผิดได้เลย ประโยชน์ของการเฝ้าระวังภัยเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม ในระดับเครือข่ายทั่วไป เช่น บริษัท ห้างร้าน เครือข่ายขนาดกลาง/เล็ก สามารถปิดกั้นเว็บไซต์ไม่เหมาะสมเพื่อให้พนักงานใช้ช่วงเวลาทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเก็บบันทึกข้อมูลหลักฐานที่สามารถสืบค้นได้ เพื่อเป็นประโยชน์ในการเก็บสถิติและประเมินพฤติกรรมการใช้งานอินเตอร์เน็ตในองค์กร ในระดับประเทศ หรือในระดับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต ประโยชน์ที่ได้รับคือหลักฐานประกอบคดี เพื่อใช้สืบหาผู้กระทำความผิด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น